มังกี้ ดี ลูฟี่ (ญี่ปุ่น: モンキー・D・ルフィ; อังกฤษ: Monkey D. Luffy) เป็นตัวละครจากการ์ตูนญี่ปุ่นเรื่อง วันพีซ และถือว่าเป็นตัวละครเอกของเรื่อง เรื่องราวของวันพีซได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อลูฟี่เดินทางออกทะเล เพื่อรวบรวมพวกพ้อง ทั้งกลุ่มโจรสลัด และเดินทางผจญภัยสุดขอบโลกเพื่อตามสมบัติที่มีอยู่ชิ้นเดียวในโลกที่เรียกว่า "วันพีซ" (One Piece) ที่เมื่อได้ครอบครองจะได้เป็นราชาโจรสลัด ซึ่งลูฟี่มีความฝีนสูงสุดคือเป็นราชาโจรสลัด ตามรอยราชาโจรสลัด โกลด์ ดี โรเจอร์
ลูฟี่มีพลังพิเศษจากการกินผลไม้ปิศาจ คือ ผลยางยืด บวกกับทักษะการต่อสู้ และใจที่อึดเข้มแข็ง กับวีรกรรมมากมายที่เขาและพวกได้ก่อไว้ ทำให้เขากลายเป็นโจรสลัดรุ่นใหม่ที่มีค่าหัวสูงมากคนหนึ่ง เป็นโจรสลัดมีชื่อ และมีสมญานามว่า "หมวกฟาง ลูฟี่" เนื่องจากสวมหมวกฟางอยู่เสมอ
วัยเด็ก
มังกี้ ดี ลูฟี่ กัปตันกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ผู้สืบสายเลือดแห่ง "D"
ลูฟี่เกิดที่หมู่บ้านฟูซาบนเกาะดาวน์ (Down) ในอีสต์บลู (East Blue) เขาถูกปล่อยให้อยู่ที่นั่นตามลำพังโดยไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับครอบครัวของเขานอกจากรู้ว่ามังกี้ ดี การ์ป (Monkey D. Garp) คือปู่ของเขา
กระทั่งวันหนึ่ง แชงคูส และกลุ่มโจรสลัดผมแดงขึ้นเกาะไปยังบาร์หมู่บ้าน ลูฟี่ได้กินผลปิศาจ คือ ผลยาง “โกมุ โกมุ” ของแชงคูสเข้าไปเพราะคิดว่าเป็นเพียงผลไม้ธรรมดา แต่เป็นผลปิศาจสายพารามีเซียสามารถยืดหยุ่นร่างกายได้เหมือนยาง ทำให้ร่างกายของเขากลายเป็นยางและจะไม่สามารถว่ายน้ำได้อีกต่อไป ต่อมาโจรภูเขาบุกมาที่บาร์และอาละวาดแต่แชงคูสไม่คิดจะตอบโต้ทำให้ลูฟี่โกรธและจะไปแก้แค้น แต่กลับถูกจับตัวไป ไม่นานแชงคูสก็ตามมาช่วยลูฟี่แต่ก็ต้องเสียแขนขวาไปเพราะจ้าวทะเล
ก่อนที่แชงคูสจะจากไปได้มอบหมวกฟางให้กับลูฟี่ พร้อมกับบอกให้ลูฟี่กลายเป็นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ ภายหลังการจากไปของโจรสลัดผมแดง การ์ปรู้สึกหวั่นอยู่ในใจถึงสายเลือดแห่ง D เขาพาตัวลูฟี่ไปให้ "ดาดัน" (Dadan) โจรภูเขาเลี้ยงดูเพื่อไม่ให้ลูฟี่ได้พบกับโจรสลัดอื่นอีกโดยหวังจะให้ลูฟี่เป็น ทหารเรือ ที่แข็งแกร่งแต่ไม่ทันการเพราะเป้าหมายของลูฟี่คือการออกเรือเพื่อเป็นราชาโจรสลัด ซึ่งที่นั่นเองที่ลูฟี่ได้พบกับโปโตกัส ดี เอส และซาโบ
แกรนด์ไลน์
ลูฟี่ออกเดินทางสู่ท้องทะเลและได้สมาชิกที่แข็งแกร่งมาเป็นพวกพร้อมกับตั้งกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางขึ้นมา เขาได้เข้าสู่แกรนด์ไลน์ ได้ต่อสู้กับโจรสลัดมากมายรวมทั้งเจ็ดเทพโจรสลัดอย่าง เซอร์ ครอคโคไดล์] และเก็กโค่ โมเรีย ที่ ทริลเลอร์ บาร์ค พร้อมกับพัฒนาความสามารถจากพลังพิเศษของผลยาง “โกมุ โกมุ”
ภายหลังการช่วยเหลือนิโค โรบินจากพวก CP9 การ์ปเดินทางมาหาลูฟี่ที่วอร์เตอร์เซเว่นและเล่าถึงประวัติให้เขาฟังว่าลูฟี่คือลูกชายของนักปฏิวัติดราก้อนที่รัฐบาลโลกต้องการตัวมากที่สุด และแชงคูสที่มอบหมวกฟางให้ลูฟี่นั้นเป็นถึงหนึ่งในสี่จักรพรรดิผู้ปกครองครึ่งหลังของแกรนด์ไลน์ หรือโลกใหม่
ในตอนนั้นลูฟี่มีค่าหัวถึง 300 ล้านเบรี่ ถูกจัดอยู่ในกลุ่มโจรสลัดหน้าใหม่ที่มีค่าหัวเกิน 100 ล้านเบรี่ ที่เรียกว่า ซูเปอร์โนวา 11 ร่วมกับ โรโรโนอา โซโร และทำให้เขาเป็นที่จับตามองมาก
การต่อสู้ระหว่างกลุ่มหมวกฟางกับบาโซโลมิว คุมะและพลเอกคิซารุ บนเกาะชาบอนดี้ทำให้กลุ่มหมวกฟางถูกวาร์ป หรือถูกผลักไปด้วยพลังจากผลปิศาจของคุมะ ไปตามที่ต่างๆ ในส่วนของลูฟี่ถูกส่งไปยังเกาะอมาซอน ลิลี่ของจักรพรรดินีโจรสลัด โบอา แฮนค็อก ลูฟี่ต้องสู้กับสองพี่น้องโบอาอย่างไม่มีทางเลือกและการช่วยปกปิดความลับสำคัญของพี่น้องโบอาทำให้แฮนค็อกหลงรักลูฟี่อย่างหัวปักหัวปำ
สงครามมารีนฟอร์ด
ข่าวการถูกจับกุมของโปโตกัส ดี เอส ที่ลูฟี่นับเป็นพี่ชาย รู้ถึงหูลูฟี่เขาจึงตัดสินใจไปที่คุกนรกอิมเพลดาวน์โดยได้ความช่วยเหลือจากแฮนค็อก แม้จะรอดตายมาได้อย่างปาฏิหาริย์จากพิษที่ได้รับจากแมคเจลแลน แต่ก็ไม่ทันการเพราะเอสถูกส่งตัวไปยังมารีนฟอร์ดแล้ว ลูฟี่จึงต้องรีบออกจากที่นั่นและได้พบกับกลุ่มโจรสลัดหนวดดำ ลูฟี่รู้ว่าทีชคือคนที่จับตัวเอสส่งให้รัฐบาลจึงเกิดการต่อสู้กันแต่จินเบเข้ามาขวางเอาไว้ ลูฟี่พร้อมกับอิวานคอร์ฟ จินเบ ครอคโคไดล์ บากี้ มิสเตอร์วันและเหล่านักโทษอีกจำนวนมากหนีออกจากคุกและมุ่งตรงไปยังมารีนฟอร์ดเพื่อช่วยเหลือเอส
ในสงครามที่มารีนฟอร์ด ลูฟี่ปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางความตกตะลึงของทุก ๆ ฝ่าย เขาเข้าขัดขวางไม่ให้ครอคโคไดล์โจมตีหนวดขาว และประกาศต่อหน้าหนวดขาวว่าเขาจะเป็นราชาโจรสลัด ทำให้หนวดขาวรู้สึกถูกใจจากนั้นจึงเริ่มต่อสู้กับทหารเรือ ลูฟี่ได้รับความช่วยเหลือจากกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวและเหล่านักโทษที่หนีออกมาด้วยกันจึงผ่านด่านสามพลเรือเอกขึ้นสู่แท่นประหารและช่วยเอสออกมาได้ ทว่าภาระร่างกายที่เกินกว่าขีดจำกัดทำให้ลูฟี่ขยับตัวไม่ได้ดังใจ
อาคาอินุจึงพุ่งเป้าโจมตีมายังลูฟี่แต่เอสเข้ามาขวางเป็นเหตุให้เอสต้องจบชีวิตลง ลูฟี่ที่ช็อกจากการสูญเสียพี่ชาย แต่ได้รับการช่วยเหลือจากกลุ่มโจรสลัดหนวดขาวและครอคโคไดล์ เขากับจินเบถูกส่งตัวไปยังเรือของทราฟาลก้า ลอว์ และหนีออกจากมารีนฟอร์ดไปก่อนที่แชงคูสจะเข้ามายุติสงคราม
ลูฟี่รู้สึกตัวอีกครั้งบนส่วนหนึ่งของเกาะอมาซอน ลิลี่ เขาโทษตัวเองที่อ่อนแอจนไม่สามารถปกป้องใครได้ โชคดีที่จินเบอยู่ด้วยจึงช่วยเตือนสติลูฟี่ว่าเขายังมีสิ่งสำคัญเหลืออยู่ เรย์ลี่ที่เดินทางมาหาได้ทดสอบลูฟี่และสอนการใช้ฮาคิทั้งสามชนิดที่หลับใหลอยู่ในตัวให้แก่ลูฟี่ ซึ่งนั่นเป็นครั้งแรกที่ลูฟี่เข้าใจถึงที่มาในพลังอันแข็งแกร่งของศัตรู
โลกใหม่
จนกระทั่งเวลาผ่านไปสองปี กลุ่มหมวกฟางเดินทางมาพบกันอีกครั้งตามข้อความที่ส่งผ่านไปของลูฟี่ บัดนี้เขาสามารถใช้ฮาคิได้อย่างชำนาญสามารถเอาชนะแปซิฟิสต้าได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว ลูฟี่บอกลาเรย์ลี่ที่ช่วยสอนการใช้ฮาคิและเริ่มออกเดินทางอีกครั้งโดยมีเป้าหมายคือเกาะเงือก
กลุ่มหมวกฟางเดินทางมาถึงเกาะเงือก ลูฟี่เข้าไปในอาณาจักรริวงูแต่เกิดหลงทางจนได้พบกับองค์หญิงชิราโฮชิและช่วยชิราโฮชิจากอาวุธที่วาน เดอ เด็คเค่นขว้างเข้ามา ลูฟี่พาชิราโฮชิออกจากวังเพื่อไปยังป่าทะเล ระหว่างทางเขาได้พบกับเดคเค่นและจัดการได้ไม่ยาก ลูฟี่ได้พบจินเบอีกครั้งที่ป่าทะเล เขาได้ฟังเรื่องราวที่จินเบเล่าจากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังลานกว้างและใช้ฮาคิแห่งราชันย์จัดการทหารไป 50,000 คน ลูฟี่จัดการโฮดี้ โจน จนหมดสภาพและใช้พลังที่เหลือยิงหมัดชุดใส่เรือโนอาที่กำลังจะร่วงลงมาบนเกาะเงือกจนเรือเสียหายไปครึ่งหนึ่งก่อนที่พวกจ้าวแห่งทะเลจะเข้ามาช่วยหยุดเรือเอาไว้ ลูฟี่สูญเสียเลือดมากจากบาดแผล เขาได้รับเลือดจากจินเบและชวนจินเบเข้าเป็นพวกแต่ถูกจินเบปฏิเสธ ภายหลังงานเลี้ยงในพระราชวัง ลูฟี่ได้พบกับคนของบิ๊กมัมที่มารับลูกกวาดซึ่งพวกลูฟี่กินไปหมดแล้ว ลูฟี่ใช้สมบัติทั้งหมดแลกกับการที่บิ๊กมัมไม่มาทำลายเกาะเงือก และประกาศสงครามกับบิ๊กมัมที่เป็นถึงหนึ่งในสี่จักรพรรดิ
กลุ่มหมวกฟางเดินทางออกจากเกาะเงือกมาถึงพังค์ ฮาซาร์ด ดินแดนที่มีทั้งน้ำแข็งและแม็กม่าอยู่คู่กัน ลูฟี่ได้พบกับคู่ปรับเก่า พลเรือโทสโมกเกอร์และทาชิงิ ฝ่ายทหารเรือที่คอยตามล่ากลุ่มของเขาอยู่ ทราฟาลก้า ลอว์ที่ก้าวขึ้นเป็นเจ็ดเทพโจรสลัดและตอบรับร่วมมือในการล้มหนึ่งในสี่จักรพรรดิ
ลูฟี่สู้กับซีซาร์ คลาวน์และถูกพลังจากผลแก๊สพิษจนถูกจับขังในกรงร่วมกับลอว์และสโมกเกอร์ ลูฟี่กับคนอื่นๆ ที่ถูกจับได้รับการปลดปล่อยจากโซ่หินไคโรเซกิ เขาเริ่มแผนการสวนกลับโดยบุกเข้าไปยังห้องทดลองและจัดการกับลูกน้องของคลาวน์
ชีวิตในวัยเด็ก(หลังจากที่แชงคูสไป)
หลังที่การจาไปของโจรสลัดผมแดง การ์ปรู้สึกหวั่นอยู่ในใจถึงสายเลือดแห่ง D เขาพาตัวลูฟี่ไปให้ "ดาดัน" (Dadan) โจรภูเขาเลี้ยงดูเพื่อไม่ให้ลูฟี่ได้พบกับโจรสลัดอื่นอีกโดยหวังจะให้ลูฟี่เป็น ทหารเรือ โดยได้เจอเอสตอนแรกไม่สนิทกัน และเวลาเอสออกไปรวบรวมเงินลูฟี่จะตามไปเพื่ออยากรู้ เอสจึงไปทางทีคนไม่ไปกัน บ้างก็ทำให้ลูฟี่ตกหน้าผา หรือต่างๆ สารพัด จนเวลาผ่านไป และวันหนึ่งเอสไปได้เงินมาได้ไปรวมตัวกับซาโโบ จนลูฟี่สะกดรอยตามมาได้ เอสกับซาโบจึงพยายามที่จะฆ่าปิดปากไม่ให้ใครรู้ ในตอนนั้นพวกพอยเชอมี่ สมาชิกของกลุ่มโจรสลัดบลูแยมมาหาเงินที่ถูกขโมยไปได้จับตัวลูฟี่เพื่อสอบปากคำ แต่ไม่ได้ผลอะไร ส่วนเอสกับซาโบรวบรวมสมบัติไปซ่อนที่อื่น จนกลางคืนสงสัยว่าทำไมพวกมันไม่ตามมาก็เลยรู้ว่าลูฟี่ไม่บอกเรื่องสมบัติ เอสกับซาโบจึงไปช่วยลูฟี่จากพอยเชอมี่จนสำเร็จ ทางพอยเชอมี่ ที่บาดเจ็บถูกบลูแยมฆ่าตาย หลังจากนั้นซาโบออกจากปลายทางสีเทาแล้วอาศัยอยู่กับเอสและลูฟี่ และออกอาละวาดไปทั่วอาณาจักร แต่วันหนึ่งขณะที่กินแล้วหนีชายคนหนึ่งเรียกซาโบ จนเอสและลูฟี่สงสัยเลยถามจนรู้ว่าซาโบเป็นลูกของพวกชนชั้นสูงที่หนีออกจากบ้านมาตลอด 5 ปี และทั้ง 3 คนได้ดื่มเหล้าสาบานกันว่าจะเป็นพี่น้องสาบาน และได้ออกจากบ้านของดาดันไปใช้ชีวิตเองจนอยู่มาวันหนึ่งกลุ่มของบลูแยมที่ถูกจ้างจากพ่อของซาโบให้ทวงลูกคืนได้พยายามนำซาโบกลับไป จนซาโบไม่มีทางเลือก ทางเอสและลูฟี่ได้ถูกบลูแยมชวนให้ทำการขนระเบิดเพื่อไปวางให้ทั่วปลายทางสีเทาเพื่อเตรียมการวางระเบิดกำจัดพวกคนที่อาศัยในปลายทางสีเทา เพราะอีกไม่นานพวกชาวมังกรฟ้ากำลังเดินทางมาที่นี่ ในวันที่เริ่มแผนการ พวกบลูแยมรู้ตัวทีหลังว่าโดนหลอกจึงได้คิดให้เอสและลูฟี่นำทางไปเอาสมบัติที่ซ่อนไว้ เพราะไม่งั้นจะถูกไฟเผาตายหลังจากพวกบลูแยมเจอสมบัติคิดที่จะฆ่าเอสกับลูฟี่ แต่พวกคาคันมาช่วยไว้เอสกับดาดันได้สูกับพวกบลูแยม ส่วนพวกกลุ่มดาดันได้นำลูฟี่หนีกลับไป ทางซาโบรู้สึกเป็นห่วงเอสกับลูฟี่พยายามจะไปช่วยแต่ออกจากเมืองไม่ได้แล้วเจอกับมังกี้ ดี ดราก้อน พ่อของลูฟี่ได้บอกความจริงเรื่องแผนการของพวกอาณาจักร แล้วจากไปพวกคนที่อาศัยอยู่ที่ปลายทางสีเทาที่พยายามหนีจากไฟป่า ทันใดนั้นพวกกลุ่มคณะปฏิวัติที่ได้เปิดทางสู่ทะเลได้นำพวกคนที่รอดออกมาได้ จนเวลาผ่านไป ซาโบได้คิดว่าจะออกทะเลทันทีได้ขโมยเรือประมงและออกเดินเรือตั้งกลุ่มโจรสลัดของตน แต่ว่าเรือที่พวกชาวมังกรฟ้าเดินทางมาเห็นได้ยิงทำลายเรือลำนั้นไปพร้อมกับซาโบ เรือถูกทำลาย ทางลูฟี่ที่เสียใจเรื่องเอสกับดาดันไปนั้น เอสได้นำตัวดาดันกลับมาเต็มแผลพร้อมบอกว่า ในคืนนั้นที่จัดการกับบลูแยมได้แล้ว ถูกไฟปิดทางหมดจึงได้หนีออกจนสำเร็จแต่ดาดันถูกไฟครอบเต็มตัว เอสจึงพยายามขโมยยาจากในเมือมารักษาอย่างเต็มที่จนกลับมา แล้วโดกุระที่กลับมาได้รู้จากลูฟี่ว่าเอสกับดาดันปลอดภัยได้มาบอกว่าถึงการตายของซาโบ(แต่ความจริงแล้วซาโบมีชีวิตอยู่ เพราะตอนที่เรือถูกทำลาย ได้ถูกพวกดราก้อนช่วยไว้ แต่อาการสาหัสมาก) ทำให้เอสกับลูฟี่ถึงกับช็อค จนวันต่อว่าลูฟี่เสียจนหลับไปแล้ว ทางเอสถูกจับมัดไว้หน้าบ้านได้รับจดหมายที่ซาโบส่งออกมาก่อนออกทะเลพร้อมกับเสียใจ เอสบอกกับลูฟี่ว่าสมบัติที่รวบรวมกับซาโบถูกไฟเผาจนหายไป หนสุดท้ายซาโบไม่ได้ใช้สมบัติในการออกเดินทาง เอสจึงไม่สนใจ พร้อมอยู่กันโดยโดยพึ่งตัวเอง และขอดาดันว่าจากอาศัยอยู่ที่ฐานที่ตนสร้างขึ้นมาข้างนอก พร้อมกับเป็นโจรสลัดเมื่อตอนอายุ 17 ปีเพราะซาโบได้บอกว่าชนชั้นสูงในอาณาจักรอย่างเต็มตัวเมื่ออายุ 18 ปี ทั้งคู่จึงจะออกเดินทางตอนอายุ 17 ปี จนเวลาผ่านไปจนเอสอายุได้ 17 ปี ลูฟี่อายุ 14 ปี เอสได้ออกเดินทางไปก่อน และบอกลาพวกดาดัน ลูฟี่จึงเตรียมฝึกตลอด 3 ปีที่เหลือ จน 3 ปี ต่อมาลูฟี่อายุ 17 ปี ได่เริ่มออกเดินทางพร้อมกับบอกลาทุกคนที่หมู่บ้านไปเป็นโจรสลัด
ความสัมพันธ์
- ครอบครัว; มังกี้ ดี การ์ป (ปู่), มังกี้ ดี ดราก้อน(พ่อ), เคอรี่ ดาดัน(แม่บุญธรรม)
- พี่น้องร่วมสาบาน; โปโตกัส ดี เอส(เสียชีวิต), ซาโบ(อ. โอดะออกมาเปิดเผยแล้ว ว่าซาโบ้ยังไม่ตายและอยู่กับคณะปฏิวัติ)
- พวกพ้อง หรือลูกเรือ; โรโรโนอา โซโร, นามิ, อุซป, ซันจิ, โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์, นิโค โรบิน, แฟรงกี้, บรู๊ค, จินเบ(เจอกันอีกครั้งที่โลกใหม่จะยอมเป็นพวกแต่ตอนนี้ยังก่อน)
- พันธมิตรโจรสลัด; ทราฟาลก้า ลอว์
หมวกฟาง
หมวกฟางที่ลูฟี่ใส่อยู่แท้จริงเจ้าของคนแรกคือโกลด์ ดี โรเจอร์ ตอนมาเป็นโจสลัด โรเจอร์ได้มอบให้ลูกเรือก็คือแชงคูส เพราะคิดว่าหลังจากที่ตายแชงคูสจะเป็นราชาโจรสลัดคนต่อไป แต่แชงคูสไม่ได้สนใจเรื่องนั้น และเห็นว่าลูฟี่มีนิสัยคล้ายกัปตันโรเจอร์ และเหมือนตนในสมัยเด็ก เลยมอบให้พร้อมบอกว่าถ้าเป็นโจรสลัดที่ยิ่งใหญ่ได้เมื่อไหร่จะมารับคืน
ค่าหัว
- 30 ล้านเบรี หลังจากกำจัด หลังจากกำจัดโจรสลัดชั้นนำในอีสต์ บูล ได้แก่ กระบองเหล็ก อัลบีด้า, กลุ่มมนุษย์เงือกอารอน, ตัวตลก บากี้, กลุ่มโจรสลัดดอนครีก กลุ่มโจรสลัดแมวดำ
และนาวาเอกมอร์แกน
- 100 ล้านเบรี หลังจากกำจัด 1ใน7เทพโจรสลัดครอกโคไดล์ หรือ MR.Zero
- 300 ล้านเบรี (หลังจากจัดการร็อบ ลุจจิและ CP9)
- 400 ล้านเบรี (หลังจากชกหน้าพวกชาวมังกรฟ้า ลอบเข้าอิมเพลดาวตั้งแต่เลเวล 1-6 เข้าร่วมสงครามของกองทัพเรือกับหนวดขาวที่มารีนฟอร์ด และไปตีระฆัง "อ๊อก เบล" 16 ครั้ง ในการไว้อาลัยกับการตายของเอส)
พลังและความสามารถ
+ การต่อสู้มือเปล่า + พลังจากผลปิศาจ ผลโกมุ โกมุ หรือผลยางยืด + ทักษะฮาคิราชันย์ผู้พิชิต + ทักษะฮาคิแห่งเกราะ + ทักษะฮาคิสังเกต + เกียร์ 2 (โดยการ สูบฉีดความร้อนในกระแสเลือดไปยังหัวใจ หากเป็นคนปกติ กล้ามเนื้อหัวใจจะ ฉีกขาด) + เกียร์ 3(โดยการ ที่ลูฟี่กัด นิ้วหัวแม่โป้งให้มีช่องเพื่อเป่าลมไปยังส่วนใดส่วนหนึ่งในร่างกาย)
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โรโรโนอา โซโร เป็นนักล่าค่าหัวผู้มีความเชี่ยวชาญในการใช้ดาบเป็นอาวุธ โดยมีดาบ 3 เล่มเป็นอาวุธประจำตัว มีความใฝ่ฝันเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ตามที่ให้สัญญาไว้กับ คุอินะ เพื่อนสมัยเด็กที่เสียไป หลังจากนั้นถูกนาวาโทมอร์แกนมือขวานจับตัวไปและเจอกับลูฟี่ ลูฟี่เข้ามาช่วยโซโรไว้ และโซโรยังร่วมเดินทางไปกับลูฟี่ด้วย และโซโรเองมีค่าหัว 60 ล้านเบรี หลังจากที่จัดการดาซูบอเนส หรือมิสเตอร์วัน แล้วเพิ่มขึ้นเป็น 120 ล้านเบรี หลังจากจัดการคาคุซึ่งเป็นหนึ่งใน CP9
ดาบประจำตัวที่โซโรพกไว้เสมอตั้งแต่แรกคือ ดาบสีขาว วาโดอิจิ มอนยิ (เป็นดาบที่จะคาบไว้ที่ปากเวลาใช้ท่าสามดาบ) ซึ่งเป็นดาบที่รับช่วงมาจากเพื่อนสมัยเด็กและสาบานว่าจะเป็นนักดาบที่เก่งที่สุดในโลก ดาบอื่นที่ใช้ในปัจจุบันอีกสองเล่มคือดาบสีแดง ซังได คิเทซึ เป็นดาบอาถรรพ์ที่ได้มาจากล็อกทาวน์ และ ดาบดำ ชูซุย ซึ่งได้มาจากการสู้กับซามุไรเจเนรัลซอมบี้ ริวมะ (ว่ากันว่าเป็นตัวเอกจากนิยายของ อ.โอดะ แต่เขากลับป่วยจนเสียชีวิต จึงได้เป็นแขกรับเชิญในร่างซอมบี้) ที่ธริลเลอร์บาร์ค จึงทำให้บรู๊ค (สมาชิกเรือเธาด์ซัน ซันนี่คนล่าสุด) ได้เงาของเขากลับคืนมา
โซโรนั้นเคยพบกับเรือตรีหญิงแห่งกองทัพเรือ ทาชิงิ ซึ่งมีหน้าตาคล้ายกับคุอินะมาก แต่ในตอนนั้นพวกเขาไม่ระแวงเลยว่าอีกฝ่ายคือกองทัพเรือและโจรสลัด จนกระทั่งมารู้เอาในภายหลัง อย่างไรก็ตาม โซโรไม่กล้าประชันดาบกับเธอ และมักหลีกเลี่ยงอยู่เสมอเพราะไม่อาจลืมภาพคุอินะไปได้
เป้าหมายที่สำคัญที่สุดของโซโรคือนักดาบอันดับหนึ่งของโลก จูลาคีล มิฮอว์ค เจ้าของฉายาตาเหยี่ยว โซโลเคยประชันกับมิฮอว์คมาครั้งหนึ่งเมื่อครั้งที่ลูฟี่กับเขาไปที่ร้านอาหารกลางทะเลที่ซันจิอยู่และพ่ายแพ้ หลังจากนั้นเป็นเวลานานที่เกาะชาบอนดี้ โซโลที่สะสมความเหนื่อยล้าไว้มากต้องเข้าสู้กับบาโซโลมิว คุมะและเกือบถูกฆ่าโดยคิซารุ แต่ถูกช่วยชีวิตไว้จากราชันย์นรกเรลี่ จากนั้นจึงถูกหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด บาโซโลมิว คุมะซัดกระเด็นไปที่ซากราชอาณาจักรเก่า ที่นั่นเขาได้พบกับมิฮอว์คอีกครั้ง ในเวลานั้นข่าวที่ลูฟี่สูญเสียเอสไปได้มาถึง โซโรจึงดึงดันจะออกจากเกาะไปพบลูฟี่ แต่เมื่อได้รับรหัสที่ลูฟี่ส่งมา จึงเปลี่ยนใจและกลับไปก้มหัวขอให้มิฮอว์คเป็นคนสอนวิชาดาบแก่ตนเอง มิฮอว์คเข้าใจนิสัยโซโลเป็นอย่างดี จึงรับปากสอนหลังจากแผลของโซโลหายดี
บุคลิกและนิสัย
โซโรเป็นคนจริงจัง ขี้เซา หลับง่าย ชอบดื่มเหล้า หลงทางบ่อย ไม่เชื่อในพระเจ้า และพูดตรงไปตรงมา ถึงจะอยู่กลุ่มเดียวกับซันจิ แต่เขาก็ไม่ชอบซันจิสักเท่าไร จึงมักชอบหาเรื่องกับซันจิจนทั้งคู่ต้องทะเลาะกันเป็นประจำ จนซันจิให้ฉายาส่วนตัวแก่เขาว่า "เจ้าหัวเขียวสาหร่าย" ส่วนซันจิก็ได้ฉายาจากโซโลว่า "เจ้าคิ้วยากันยุง"/"เจ้าคิ้วม้วน" เช่นกัน แต่ถึงภายนอกจะไม่แสดงออกเท่าไร โซโลก็เป็นคนที่รักเพื่อนฝูงอย่างมาก เมื่อถึงเวลาต่อสู้จะจริงจังเสมอ แล้วยังชอบกินปลา และตกปลาอีกด้วย โดยปลาที่ตกได้บ้างเป็นปลาธรรมดาไม่ก็จ้าวทะเล โดยโซโลมีส่วนคล้ายซันจิตรงที่ไม่ฟันผู้หญิง แต่จะโจมตีให้สลบไป หรือผู้หญิงที่มีพลังพิเศษสายโรเกียจะโจมตีโดยไม่ใช้ฮาคิแต่จะใช้ฮาคิเพื่อขู่ หลอกล่อหรือป้องกันตัว
ดาบของโซโร
โซโลเป็นผู้เชี่ยวชาญสูงสุดในการต่อสู้โดยใช้ดาบเป็นอาวุธ เขาสามารถสู้ด้วยดาบ 1 ถึง 3 เล่มพร้อมกันได้ แต่จะสู้ได้ดีที่สุดหากใช้ดาบทั้ง 3 เล่มพร้อมกัน สำหรับดาบของโซโล มีดังนี้
- ดาบสีขาว วาโด อิจิมอนจิ (ญี่ปุ่น: 和道一文字 Wado Ichimonji ) เป็นดาบเล่มสำคัญที่สุดของโซโล ซึ่งเป็นดาบของอดีตคู่แข่งคนสำคัญของเขาที่เสียชีวิตไปแล้ว ปกติโซโรจะคาบเล่มนี้ไว้ที่ปากถ้าใช้ครบ 3 เล่ม และพกติดตัวเพื่อระลึกถึงเธอเสมอ
- ดาบสีแดง ซังได คิเทซึ (ญี่ปุ่น: 三代鬼彻 Kitetsu Sandai ) ดาบอาถรรพ์ ใครถือดาบนี้มีอันเป็นไปเป็นดาบที่เลือกผู้ใช้ โซโลทดสอบโดยการโยนขึ้นและปล่อยให้ดาบหมุนลงมาหาแขน ปรากฏว่าไม่เป็นไร ลุงเจ้าของร้านดาบในเมือง ล็อกทาวน์ ของร้านจึงยกให้ จะใช้มือซ้ายถือดาบเล่มนี้
- ดาบสีเทา ยูบาชิริ (ญี่ปุ่น: 雪走 Yubashiri ) เจ้าของร้านดาบ ถูกใจในการทดสอบของโซโลจึงให้ดาบเล่มนี้มาอีก (พังไปจากการต่อสู้)
- ดาบ ชูซุย (ญี่ปุ่น: 秋水 Shusui ) ได้มาจาก ซอมบี้ซามูไรในตำนาน ริวมะ และสู้ชนะถึงได้มา
ค่าหัว
- 60 ล้านเบรี หลังจากกำจัดนักล่าโจรสลัด 100 คนที่เมืองวิสกี้พีคและ MR.1
- 120 ล้านเบรี หลังจากจัดการคาคุและองค์กรCP9
พลังและความสามารถ
- วิชา 3 ดาบ
- ทักษะฮาคิแห่งเกราะ
- ทักษะฮาคิแห่งการคงอยู่
- ทักษะม้วนตัวหลบ
- ทักษะกระโดดสูง
ท่าไม้ตาย
- ฝ่ามือประกบดาบ
- วิชาไร้ดาบพยัคฆ์
- วิชาดาบเปล่งพร
- ดาบปราบพยัคฆ์
- ดาบ 3000 ภพ
- ดาบพันโลก
- คลื่นยักษ์
- ดาบวัวคะนองศึก
- ดาบปูงาซามิ
- เพลงดาบสิงโต
- เพลงดาบสายลม 36 ประการ
- เพลงดาบสายลม 108 ประการ
- ดาบพิฆาตอีกาดำ
- เพลงดาบสลาตัน
- เพลงดาบราโชบอน
- เพลงดาบปีศาจวัว
- เพลงดาบหมาป่า
- เพลงดาบเล็บทะลวงไส้
- เพลงดาบสองเล่มสองคม
- เพลงดาบปีศาจ
- เพลงดาบกิ้งก่าแผลงคอ
- หอคอยย้อยศร
- ซามอน (ตราทราย)
- เพลงดาบ 3 เล่ม พินลูกบอลเสือภูเขา
- เพลงดาบ 9 เล่มเทพพิทักษ์อาชูร่า
- อาชูร่าหมอกสีเงิน
- เพลงดาบพร72ประการ
- วิชา2ดาบนิงิริ (ท่าผ่าแบบที่สอง (นิงิริ ในซูชิ หมายถึง ปลาเนื้อขาว)
- โทโร่ (ดาบดาบทะยานฟ้า (หมายถึงตรงท้องปลาที่มีมัน เป็นส่วนที่ดีที่สุดของปลา)
- โอโทโร่ (ดาบทะยานฟ้าดัดแปลง)
- ฮิราเมคิ (ฟ้าแลบ)
- วิชาดาบเดียวอิไอ (ราชสีห์คำราม)
- กอริลาหนึ่ง
- กอริลาสอง
- วิชาสามดาบนิกริ
- วิชาสามดาบมังกรสะบัดหาง
- วิชาสามดาบเสือดาว
- อาชูรา
- ดาบคู่อูคิไอ
- วิชาดาบเดียวมังกรบินเปลวเพลิง
- ดาบพร 36 ประการ
- วิชาดาบเดียวพร 360 ประการ
- ดาบหกวิถี
- วิชาสามดาบ ลมกรดทมิฬ
- เพลงดาบนิทรามหากาฬ
- เพลงดาบเดี่ยวเดียวดาย สกัดมังกร

อุซป ตัวละครการ์ตูนจากเรื่อง วันพีซ อุซปเป็นนักโกหกประจำหมู่บ้านไซรัป โดยชื่อของอุซปอาจจะดัดแปลงมาจาก อีสป โดยในภาษาญี่ปุ่นคำว่า "โกหก" ออกเสียงว่า "อุโซะ" โดยเล่นคำรวมกับคำว่า อีสป เป็น อุซป ซึ่งหมายถึงผู้เล่าเรื่อง และนักโกหก อุซปยังมีลักษณะจมูกที่ยาวเหมือนกับพิน็อคคิโอ (ตุ๊กตาไม้ที่จมูกยาวเวลาโกหก)
อุซป(เป็นลูกของยาซปที่เป็นมือปืนให้กับกลุ่มโจรสลัดผมแดง)มีความสามารถพิเศษคือการใช้อาวุธเกี่ยวกับการยิงได้แม่นยำ รวมถึง หนังสติ๊ก หรือปืนใหญ่ ลักษณะนิสัยเป็นคนโกหก และขี้ขลาด ถึงแม้ว่าอุซปจะมีพละกำลังน้อยกว่าคนอื่นในเรือ อุซปได้เข้าร่วมการต่อสู้ทุกครั้ง โดยหลายๆ ครั้งได้รับบาดเจ็บกลับมา
อุซปผู้ที่มีความในการยิงปืน ในการวาดรูป และการผลิตสิ่งของจริงๆหรือแหกตามาก อุซปเป็นคนขี้กลัวแต่ก็ตลกมาก ซึ่งอุซปเป็นคนออกกลอุบาย มากมายให้กับพวกลูฟี่ ซึ่งนอกนามิที่ออกกลอุบายแล้วก็มี อุซปนี้แหละที่คิดแผนดีมาก ซึ่งอุซปนั้นจะชอบหัวเราะกับการที่ลูฟี่ เลียนแบบโซโล ซันจิและช็อปเปอร์มาก และอุซปว่างๆจะชอบหลอกล่อช็อปเปอร์ด้วยความสนุกสนาน ปัจจุบันอุซปมีค่าหัว 30 ล้านเบลีซึ้งมีผลมาจากการที่จัดการ cp9 และยิงธงของรัฐบาลโลกลงมาจึงทำให้ได้ฉายาว่า โซเงคิง (ที่จริงก็คืออุซปอะนะ) ตอนนี้กำลังต่อสู้กับออส และ เก็กโค โมเลีย เพื่อชิงเงาของตนกับคืนมา (ไม่งั้นร่างจะสลายเมื่อโดนแสงอาทิตย์)
โซเงคิง
หลังจากอุซปได้แยกตัวออกจากกลุ่ม อุซปได้ปลอมเป็นโซเงคิงเพื่อเข้ามาช่วยเหลือพวกของ มังกี้ ดี ลูฟี่ ในตอนที่จะต้องไปช่วยเหลือ นิโค โรบินจากพวกCP9 มีฝีมือการยิงปืนพอ ๆ กับ อุซป โดยโกหกว่าโซเงคิงอาศัยอยู่ที่เกาะนักแม่นปืน ถ้าถามเค้าว่าเกาะนักแม่นปืนอยู่ที่ไหน เค้าจะตอบว่าอยู่ในใจของเราไง
อาวุธ
ค่าหัว
- โซเงคิงมีค่าหัว 30 ล้านเบรีหลังจากเผาธงของรัฐบาลโลก (แต่ในนามอุซปไม่มีค่าหัว)
ท่าไม้ตาย
- กระสุนหนามดำ
- กระสุนคิวบ์
- กระสุนมารดำ (กระสุนสีดำติดยาพิษ)
- กระสุนแสง
- กระสุนโปรยปราย
- กระสุนลวงตา
- กระสุนหนามนรก
- กระสุนดินดำอุซป
- กระสุนควัน
- กระสุนซอส
- กระสุนเพลิง
- หนังยางอุซป
- กระสุนไข่เน่า
- กระสุนไข่สด
- กระสุนดินระเบิดชนิดแรง
- กระสุนซอสทาบาสโก้ (ซอสพริก)
- ฆ้อนปอนด์อุซป
- อุซป โอฮี้โฮ้
- กระสุนงูแดง
- คาถาอุซป
- แฟลชเคชชับ
- เบรธไดอัล
- ปืนกระสุนดาวกระจายชูริเคน
- กระสุนระเบิดหนาม
- กระสุนเพลิงสามนัด
- อิมแพ็ค
- กระสุนดินระเบิดแห่งจอมซุ่ม
- อุซป ฮอปปิ้ง
- อุซป สกายไรเดอร์
- อุซป แฮมเมอร์
- กระสุนพริกไทย
- อุซปมูมเบอร์แรง
- กระสุนควันแห่งจอมซุ่ม
- กระสุนไฟฟินิกซ์
- กระสุนนกไฟ
- กระสุนแสงดำ (กระสุนแมลงสาบ)

นามิเป็นต้นหนของเรือ และเป็นคนที่ 3 ของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเป็นคนแรกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางที่โผล่มาในอะนิเมะ ในหนังสือ เธอเป็นคนที่ 3 ที่ยอมร่วมกลุ่มจริงๆ ก็เป็นคนที่ 5 เธออาจจะเป็นต้นหนที่ดีที่สุดในแกรนด์ไลน์ และเธอก็เป็นนักล่าสมบัติอีกด้วย นอกจากนี้เธอยังเป็นนักล้วงกระเป๋าที่ชำนาญมาก ๆ ด้วย
นามิเป็นต้นหนที่ดีมาก สามารถบ่งบอกความแตกต่างของอากาศได้ ทำให้กลุ่มโจรสลัดหมวกฟางหลุดพ้นจากอากาศแสนวุ่นวายของแกรนด์ไลน์ได้ มีอยู่ 2 อย่างที่เธอชอบที่สุดนั่นคือ เงิน และ “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง เพราะเธอรักเบลล์เมียร์ซึ่งคือแม่เลี้ยงของเธอ ความฝันของนามิคือการได้วาดแผนที่โลกที่สมบูรณ์แบบของโลก ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังไม่สำเร็จสำหรับทุกคนเป็นเพราะทะเลที่ห้าวหาญของแกรนด์ไลน์ แผนที่แรกที่นามิวาดคือแผนที่ของเกาะที่หมู่บ้านโคโคยาชิอยู่
ลักษณะของนามิคือ มีรอยสักที่แขนด้านซ้ายของเธอ ซึ่งหมายถึง “Mikan” ซึ่งเป็นส้มชนิดหนึ่ง และเกวียน หมายถึงอดีตของเธอ ซึ่งตอนแรกจะเป็นรอยสักที่บ่งบอกว่าเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดอารอน เธอมีความสูง 169cm สัดส่วน 36-22-36 อาจารย์โอดะเคยบอกว่านามิถูกเปรียบเทียบเหมือนกับแมว และสีที่บ่งบอกเกี่ยวกับเธอคือสีส้ม มีกลิ่นตัวเหมือนส้ม “Mikan” และเงิน อาจารย์โอดะก็บอกด้วยว่า สิ่งที่นามิชอบกินที่สุดคือส้มและผลไม้ทุกชนิด
ในเรื่องของการต่อสู่ นามิไม่ชำนาญในด้านการต่อสู้เหมือนทุกคนในกลุ่ม แต่เธอก็ยังสามารถป้องกันตัวได้อย่างเล็กน้อยด้วยกระบองของเธอ และสามารถกำจัดโจรสลัดธรรมดาๆ หรือทหารเรือธรรมดาได้ แม้จะมีปัญหาเล็กน้อย เธอสามารถปล่อยพลังโจมตีที่ทั้งเร็วทั้งแรง และเมื่อเธออยู่ที่อลาบาสตาและหลังจากนั้น เธอใช้กระบองที่มีความสามรถเปลี่ยนสภาพอากาศอยู่ข้างในที่อุซปสร้างให้ ตอนแรก ๆ กระบองถูกสร้างมาเพื่อใช้ในงานปาร์ตี้ แต่เมื่อนำท่าต่าง ๆ มาใช้ร่วมกันแล้ว นามิเปลี่ยนกระบองที่ใช้ในงานปาร์ตี้มาเป็นกระบองที่แสนอันตราย แต่หลังจากนั้น กระบองคุริมะได้กลายเป็น “กระบองคุริมะ ฉบับสมบูรณ์” ซึ่งกระบองนี้สามารถทำลายกลุ่มทหารเรือได้กลุ่มใหญ่เลย เทคนิคบางอย่าง คือ “ทันเดอร์โบลท์ เทมโป” ที่ใช้คูลบอลกับฮีทบอลผสมกันให้เป็นเมฆ และส่งทันเดอร์บอลไปบนเมฆทำให้เกิดสายฟ้าฟาดขนาดใหญ่และสามารถสร้างภาพมิราจ เป็นต้น แต่ต่อมาอีก 2 ปี นามิได้อยู่บนเกาะท้องฟ้าที่ใช้วิทยาศาสตร์ในการควบคุมสภาพอากาศกระบองคุริมะจึงเปลี่ยนเป็น "กระบองคุริมะซอคเซรี่"
ค่าหัว
ค่าหัวของนามิ 16 ล้านเบรี หลังจากจัดการแคริฟอร์และองค์กร CP9
ท่าไม้ตาย
- กระบองคุริมา
- ท่าที่ใช้ในงานปาร์ตี้ 3 ท่อนแรก
- ฟายน์เทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนแรกมาต่อเป็นรูป 3 เหลี่ยมแล้วกดปุ่มด้านข้างจะมีนกพิราบบินออกมา
- คลาวด์ดี้เทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนอันเดิมมาต่อกันเป็นรูปปืน L แล้วกดปุ่มจะมีดอกไม้ออกมา
- ธันเดอร์เทมโป เป็นการนำกระบอง3ท่อนเดิมมาต่อกันเป็นรูป Y จับที่ปลายทั้ง2แล้วกดปุ่มก้จะมีหมัดออกมา)
- เรนเทมโป เป็นการนำกระบอง 3 ท่อนแรกไม่ต้องต่อเป็นรูปแค่กดปุ่มก้จะมีน้ำพุ่งออกมา
- ท่าที่ใช้ในการต่อสู้ 3 ท่อนหลัง
- ฮีทบอล เป็นการสะบัดการเป่ากระบองแต่ละอันจะมีฟองอากาศเกิดขึ้น ท่อนแรกฟองอากาศร้อน
- คลูบอล ท่อนที่ 2 ฟองอากาศเย็น
- ธันเดอร์บอล ท่อนที่ 3 ฟองอากาศสายฟ้า
- ไซโคลนเทมโป เป็นการนำท่อนร้อนและเย็นมาประกบกันเป็นรูป + จากนั้นปาออกไปมันจะเป็นบูมเมอร์แรงแต่ท่ามันไปกระทบอะไรมันจะเกิดลมระเบิดทันที
- ธันเดอร์โบล์ทเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นใช้ธันเดอร์บอลปาเข้าไปในเมฆจะเกิดฟ้าผ่า
- ทอเน็ตเทมโป/ทอนาโดเทมโป เป็นการนำกระบองมาต่อเป็นรูป T จากนั้นจับปลายด้ามหาง T กดปุ่มจะมีนกไขลานออกมามัดตัวศตรูไว้แล้วกระบองก็จะหมุนๆจนพุ่งออกไป
- ฟ็อคเทมโป เป็นการใช้คลูบอลทำให้สะภาพอากาศรอบๆเย็นจัด จากนั้นใช้ความร้อนให้ระเหยขึ้นอากาศพอเย็นกับร้อนกระทบกันจะกลั่นตัวเป็นไอน้ำเกิดเป็นหมอก
- มิราจเทมโป เมื่ออากาศร้อนจัดให้กวาดคลูบอลไปในทิศทางการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
- กระบองคุริมาเพอร์เฟ็ค
- เป็นกระบองที่ถูกพัฒนาจากเดิมโดยเพิ่มไดอัลที่ส่วนหัวกระบองทั้ง 3 ท่อนที่ใช้ต่อสู้และเสริมความยาวนิดหน่อย
- ธันเดอร์ชาร์จ กระบองใหม่นี้ส่วนหัวจะเป็นวงกลมเพื่อให้สะดวกในการใช้ท่าใหม่ ๆ ท่านี้พอกดปุ่มจะมีลูกบอลอากาศไฟฟ้าคลอบส่วนหัวกระบอง
- คลูชาร์จ จะมีลูกบอลอากาศเย็นคลอบส่วยหัวกระบอง
- ฮีทชาร์จ จะมีลูกบอลอากาศร้อนครอบส่วนหัวกระบอง
- ธันเดอร์บอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศสายฟ้า
- คลูบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศเย็น
- ฮีทบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศร้อน
- สวิงอาร์ม ใช้ธันเดอร์ชาร์จจากนั้นกดปุ่มปล่อยเชือกต่อกับกระบองอีก 2 ท่อนควงแล้วฟาดออกไป
- ไซโคลนเทมโป คล้ายของเก่าแต่จะไม่เหมือนเดิมเพราะไม่ใช่บูมเมอร์แรงอีกแล้วหักปลายกระบองร้อนเย็นมาต่อคู่กันIIจากนั้นคว้างออกไปจะเกิดลมระเบิด
- คลาวด์ดี้เทมโป ไม่เหมือนของเดิมแต่จะต่อเป็นรูปเดิมจะเกิดเมฆสีขาวออกมา
- เรนเทมโป ไม่เหมือนของเดิมใช้คลูบอลใส่คลาวด์ดี้เทมโปที่อยู่บนฟ้าจากนั้นจะเกิดฝนตก
- ดาร์คคลาวด์เทมโป ใช้ฮีทชาร์จคลูชาร์จมาประกบกันจากนั้นใส่สายฟ้าเข้าไปจะเกิดเมฆสายฟ้าขนาดเล็กอยู่ตรงหน้า
- ธันเดอร์แลนซ์เทมโป ใช้ดาร์คคลาวด์เทมโปก่อนจากนั้นออกห่างมันพอประมาณให้ใช้ธันเดอร์ชาร์จจะเกิดฟ้าผ่าพุ่งจากเมฆเข้าหาธันเดอร์ชาร์จ
- ฟาตา โมร์กานา/ภูตเนรมิต ใช้มิราจเทมโปกับความหักเหของแสงทำให้เกิดภาพลวงตาของผู้ใช้ แต่ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ใช้ด้วย
- มิราจเทมโป เมื่ออากาศร้อนจัดให้กวาดคลูบอลไปในทิศทางการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
- กระบองคุริมาซอคเซรี่
- มิราจ ใช้คลูเอ้จ(เหมือนคลูชาร์จแต่รุนแรงกว่าเดิม)กวาดไปกลางอากาศที่มีการคำนวณการหักเหของแสง จะทำให้เกิดภาพลวงตา
- กัสซอด มีฟองออกมาจากกระบอง เมื่อฟองแตกจะมีลมพุ่งออกมาโจมตีศัตรู(ชื่อท่าแปลว่าลมกระโชก)
- แบล๊กบอล ฟองอากาศที่มีเมฆสายฟ้าอยู่ข้างใน(ชื่อท่าแปลว่าบอลสีดำ)
- ไรอัลร๊อด ใช้แบล๊กบอลต่อกันเป็นโซ่ยาว พอเมฆออกมาจากฟองให้ฟาดออกไป
- ธันเดอร์แทร็ป สร้างเมฆดำออกมาวางกับดัก (ชื่อท่าแปลว่ากับดักสายฟ้า)
- ฮีทเอ้จ เหมือนฮีทชาร์จแต่รุนแรงกว่าเดิม(ชื่อท่าแปลว่าไข่ร้อน)
- มิลกี้บอล สร้างเมฆของเกาะแห่งท้องฟ้าออกมาเป็นทรงกลม ขนาดและจำนวนตามใจผู้ใช้
- เวทเทอร์เอ้จ ปล่อยไข่จากกระบองขึ้นพอไข่แตกกลางอากาศจะมีเมฆสายฟ้าออกมา(ชื่อท่าแปลว่าไข่สภาพอากาศ)
- ธันเดอร์บลีดเทมโป บังคับสายฟ้าที่ออกมาจากเมฆได้ ใช้ร่วมกับเวทเทอร์เอ้จ และเมฆสายฟ้าทุกอัน
- ชาวเวอร์เทมโป สร้างเมฆฝนขนาดพอกับตัวไว้ใช้อาบน้ำ(ชื่อท่าแปลว่าสภาพอากาศอาบน้ำ)
- มิลกี้โรด สร้างถนนเมฆของเกาะลอยฟ้า (ชื่อท่าแปลว่า ชื่อเฉพาะของถนนเกาะลอยฟ้า)
- ธันเดอร์แลนซ์เทมโป ใช้ดาร์คคลาวด์เทมโปก่อนจากนั้นออกห่างมันพอประมาณให้ใช้ธันเดอร์ชาร์จจะเกิดฟ้าผ่าพุ่งจากเมฆเข้าหาธันเดอร์ชาร์จ
- คลูบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศเย็น
- ฮีทบอล สะบัดหรือกดปุ่มจะปล่อยลูกบอลอากาศร้อน
- ธันเดอร์โบล์ทเทมโป เป็นการสะบัดคลูบอลและฮีทบอลจำนวนมากให้กระทบกันกลางอากาศจะเกิดเมฆ จากนั้นใช้ธันเดอร์บอลปาเข้าไปในเมฆจะเกิดฟ้าผ่า

- ซันจิ (サンジ Sanji)
- ค่าหัว 77,000,000 เบรี
- พ่อครัวประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
- ผลปิศาจ ไม่มี
- ฉายา ขาดำ ซันจิ
- อายุปัจจุบัน 21 ปี
-
- พ่อครัวประจำเรือ ลักษณะเป็นชายผมเหลืองด้านหน้ายาวจนปิดตาข้างซ้ายและคิ้วข้างขวาหมุนเป็นไม้ม้วนไปทางขวา 2 ปี ต่อมาเปลี่ยนไปปิดตาขวาและคิ้วข้างซ้ายหมุนเป็นไม้ม้วนไปทางขวา ใช้ขาทั้งสองในการต่อสู้ ไม่นิยมใช้มือต่อสู้เพราะถือว่า ใช้มือในการปรุงอาหารเท่านั้น เกลียดพวกที่เอาอาหารมาเล่นและพวกที่ดูถูกอาหาร โดยใช้ท่าในการต่อสู้จากเพลงเตะ แทบทั้งสิ้น โดยชื่อท่าจะดัดแปลงมาจากชื่ออาหาร มีความใฝ่ฝันในการตามหาออลบลู นิสัยชอบหลีสาวๆหน้าตาดี โดยเฉพาะนามิ และโรบิน (มีคติจะไม่เตะผู้หญิงแม้ต้องถูกฆ่าตาย) ค่าหัว 77 ล้านเบรี ได้รับฉายาว่า "ขาดำ ซันจิ" (รูปบนใบค่าหัวนั้นเป็นเพียงรูปสเก็ตเนื่องจากทางทหารเรือไม่สามารถเก็บภาพของซันจิได้เพราะช่างภาพของทหารเรือที่แอบถ่ายรูปนั้นตอนถ่ายลืมเปิดฝาของกล้องถ่ายรูป ทำให้ไม่สามารถถ่ายภาพได้) หลังจากที่ถูกส่งไปอยู่ที่เกาะโมโมอิโระ 2 ปี ก็วิ่งหนีกระเทยและต่อสู้กับกระเทยจนใช้วิชา6รูปแบบได้แล้วคือ "เดินชมจันทร์"
- โทนี่ โทนี่ ช็อปเปอร์ (ニートニー・チョッパー Tony Tony Chopper)
- ค่าหัว 50 เบรี
- หมอประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
- ผลปิศาจ ผล ฮิโตะ ฮิโตะ สายโซออน ผลมนุษย์ ทำให้สัตว์เป็นมนุษย์
- ฉายา เรนเดียร์จมูกน้ำเงิน
- อายุปัจจุบัน 17 ปี
-
- หมอประจำเรือ ใฝ่ฝันที่จะเป็นหมอที่สามารถรักษาได้ทุกโรค ในอดีตนั้นเป็นกวางเรนเดียร์จมูกน้ำเงิน แต่ได้กินผลฮิโตะฮิโตะ (ผลมนุษย์) เข้าไปทำให้สามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ (แต่ไม่ค่อยเหมือน) ทั้งยังพูดภาษามนุษย์ได้ จึงโดนตั้งข้อรังเกียจจากเผ่าพันธุ์ของตนทั่งที่เดิมก็โดนรังเกียจที่มีจมูกน้ำเงินอยู่แล้ว เมื่อจะมาอยูกับมนุษย์ก็โดนไล่ยิงเพราะคิดว่าเป็นปีศาจ ต่อมาได้อยู่ร่วมกับมนุษย์ คือหมอกำมะลอ ฮิลรุค (ผู้ที่ร่วมชะตากรรมโดนสังคมรังเกียจเช่นกัน) ฮิลรุคผู้ซึ่งจงรักภักดีต่ออาณาจักรดรัมยิ่งกว่าสิ่งใด ก่อนตัวตายได้ฝากฝังช็อปเปอร์ ไว้กับเพื่อนสนิท ดอกเตอร์ คุเรฮะ ช็อปเปอร์จึงได้รับการถ่ายทอดวิชาการแพทย์ จนสามารถคิดค้นเม็ดยาชนิดพิเศษ "รัมเบิ้ลบอล" ที่ทำให้พลังของผลปีศาจที่อยู่ในร่างกายปั่นป่วนจนสามารถทำให้แปลงกายได้ถึง 8 ขั้น แต่ในการต่อสู้ไม่ควรกินเกิน2เม็ด เพราะเมื่อกินเม็ดที่2จะเริ่มแปลงร่างไม่ได้ดั่งใจ และเมื่อกินเม็ดที่3จะกลายร่างเป็นอสูรกายร่างยักษ์ขาดสติคลุ้มคลั่ง ค่าหัว 50 เบรี ได้รับฉายาว่า "ผู้ชื่นชอบขนมหวาน ช็อปเปอร์" เพราะว่าทหารเรือเข้าใจผิด คิดว่าช็อปเปอร์เป็นสัตว์เลี้ยง
นิโค โรบิน [Eng:Nico Robin Japan:ニコ・ロビン] เป็นนักโบราณคดีของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง ก่อนที่นิโค โรบินจะมาเป็นพวกของกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง เธอเคยเป็นรองประธานขององกรณ์บาร็อค เวิร์ค โค้ดเนมเธอคือ "มิสออล ซันเดย์" เธอเป็นลูกเรือคนที่เจ็ดของโจรสลัดของกลุ่มหมวกฟาง นิโค โรบิน เป็นสมาชิกคนแรกที่เคยเป็นศัตรูกับกลุ่มโจรสลัดหมวกฟางลูฟี่ มาก่อน นิโค โรบินได้กิน ผลปีศาจที่มีชื่อว่าผล "ฮานะ ฮานะ" เธอจึงสามารถ ผลิชิ้นส่วนของร่างกายออกมาได้ตามที่เธอต้องการ ในช่วง 2 ปีของการฝึกฝน เธอได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกนักปฏิวัติ ความฝันของเธอคือตามหา"เรียลโพเนกลีฟ" ที่บอกเรื่องราวประวัติศาสตร์ที่แท้จริง เธอมีค่าหัว 80,000,000 เบรี
รูปร่างลักษณะ
นิโค โรบิน มีรูปร่างสูงเพรียว เธอเป็นผู้หญิงที่จิตใจแข็งแกร่ง ก่อน 2 ปี มีผมสีดำยาวถึงไหล่ หลัง2 ปี มีผมสีดำยาวถึงเอว ในฉบับอะนิเมะ เธอมีดวงตาสีฟ้า ในฉบับมังงะเธอมีดวงตาสีน้ำตาล เธอมีจมูกแข็งเหมือนสันหนังสือ เธอมีสีผิวค่อนข้างเข้มเล็กน้อย แต่หลังจากสองปีในอะนิเมะ เธอมีผิวขาว เธอมีความคล้ายแม่ของเธอมาก เธอมีแขนและขา ที่ยาวมาก โดยเฉพาะขาของเธอ ทั้งยาวและเรียวสวยงาม
ค่าหัว
- 79 ล้านเบรี ตั้งแต่อายุ 8 ปีเพราะเป็นคนเดียวบนโลกที่อ่านโพเนกลีฟได้ ซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของรัฐบาลโลกเพราะเกี่ยวข้องกับ พลูตัน และหนีรอดจากการสังหารของ บัสเตอร์คอล ที่โอฮาร่า
- 80 ล้านเบรี หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เอนิเอส ล็อบบี้ โดยได้รับการช่วยเหลือจากพวกลูฟี่และรอดพ้นจากการสังหารของ บัสเตอร์คอลเป็นครั้งที่2
ท่าไม้ตาย
- พาวน์ (เหมือนแฮงแต่ในญี่ปุ่นพูดว่าพาวน์)
- เชนเฟลอร์ (ร้อยบุปผาสะพรั่ง) วิง (บิน) หรือสไปเดอร์เน็ตและเดลฟิเนียม
- โดเซ่เฟลอร์ (ดอกไม้บาน 10 ดอก)
- พิเอลน่า เฟลอร์ (ต่อกิ่งสร้างขา)
- ครัวโทร มาโน (ไม้ 4 ต้น) ครัช แฮง สแพงค์ หรือช็อค
- มิวเฟลอร์ (พันบุปผาสะพรั่ง)
- กิกันเทสโก มาโน (มือยักษ์)
โดยท่าไม้ตายทั้งหมด มาจากตัวเลขในภาษาสเปน (เช่น Uno อูโน = 1, Dos โดส = 2, Tres เทรส = 3) และคำว่า ดอกไม้ ในภาษาฝรั่งเศส (Fleur เฟลอร์)

- แฟรงกี้ ( フランキー Franky)
- ค่าหัว 44,000,000 เบรี
- ช่างซ่อมเรือประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
- ผลปิศาจ ไม่มี
- ฉายา ไซบอร์กแฟรงกี้
- อายุปัจจุบัน 36 ปี
-
- แฟรงกี้ หรืออีกชื่อหนึ่งคือ คัตตี้ แฟงค์ เป็นนักแยกชิ้นส่วนเรือ ผู้ชอบดื่มโคล่าเป็นชีวิตจิตใจ อีกทั้งยังเป็นหัวหน้าพวกแก๊งในเมืองวอเตอร์เซเว่น ในใจลึกๆแล้วแฟรงกี้ทำเพื่อปกป้องเมืองที่ตนรักเท่านั้น แฟรงกี้มีอดีตอันเจ็บปวดที่เกิดกับผู้มีพระคุณของเขา และเนื่องจากเหตุการณ์ในอดีต เพื่อความอยู่รอดเขาจึงต้องดัดแปลงตัวเองไปเป็นไซบอร์ก (ซึ่งจะได้รับพลังงานมาจากโคล่า) เขามีแบบแปลนอาวุธโบราณ "พลูตัน"ที่รัฐบาลโลกต้องการและได้เผาทำลายไปในเหตุการณ์ที่เกาะเอนิเอสล็อบบี้ก่อนที่จะมาเข้ากลุ่มหมวกฟาง ปัจจุบันเป็นช่างซ่อมเรือประจำกลุ่ม ค่าหัว 44ล้านเบรี ได้รับฉายาว่า "ไซบอร์ก แฟรงกี้"
- ฮัมมิ่ง บรู๊ค ( ブルック Hamming Brook)
- ค่าหัว 33,000,000 เบรี
- นักดนตรีประจำกลุ่มโจรสลัดหมวกฟาง
- ผลปิศาจ ผล โยมิ โยมิ ผล คืนชีพ เมื่อตายวิญญาณจะกลับสู่ร่าง
- ฉายา ฮัมมิ่ง บรู๊ค
- อายุปัจจุบัน 90 ปี
-
- สมาชิกคนล่าสุดของกลุ่ม กินผลโยมิโยมิ (คืนชีพ) เป็นนักดาบและนักดนตรี บรู๊คเคยสัญญากับลาบูนที่แหลมแฝดไว้ว่า จะวนรอบโลกแล้วกลับมาหาลาบูนอีกครั้งหนึ่ง แต่แล้ววันหนึ่งกลุ่มของเขาก็ต้องพินาศย่อยยับ ก่อนที่จะตายจากกันนั้น เขาและพวกพ้องเล่นดนตรีร่วมกันแล้วบันทึกเสียงไว้ในโทนไดอัล เพื่อเอาไปให้ลาบูนได้ฟังในวันที่เจอกับลาบูนอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไป50ปี เขามาพบกับกลุ่มของลูฟี่และขอร่วมเดินทางไปด้วย ลักษณะที่สังเกตเห็นได้ชัด คือ มีรูปร่างเป็นโครงกระดูก และมีผมทรงแอพโฟ่ ตอนยังมีชีวิตอยู่ มีค่าหัว 33 ล้านเบรี ได้รับฉายาว่า "ฮัมมิ่ง บรู๊ค"
CR.th.wikipedia.org/